ข้างบ้านเรือใบ: ในวันที่ ‘โรดรี้’ ไม่อยู่แล้วทีมจะไหวแค่ไหน
อย่างที่เรารู้กันว่าหัวใจของทีมแท้จริงแล้วไม่ใช่ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กองหน้าสุดคม, เควิน เดอ บรอยน์ ตัวสร้างสรรดุจพระเจ้า หรือ รูเบน ดิอาส แนวรับผู้เป็นดั่งกำแพง แต่คือ โรดรี้ กองกลางตัวรับที่ทำหน้าที่เหมือนผู้เล่น 3 ตำแหน่ง ทั้งช่วยแนวรับ, พักบอล และ เปลี่ยนจังหวะเกม
จังหวะใบแดงในช่วงเวลาเริ่มต้นครึ่งหลังของเกมที่เปิดบ้านชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ไป 2-0 อาจเป็นความเสียหายสำคัญใน 3 เกมหลังจากนี้เพราะ โรดรี้ จะไม่พร้อมการลงแข่งขันกับ นิวคาสเซิล (เกมคาราบาว คัพ ที่ผ่านมา), วูฟแฮมป์ตัน และ อาร์เซน่อล ในเกมพรีเมียร์ลีก ซึ่งแน่นอนแฟนบอลทุกคนคงให้ความเซงกับเกมบุกไปเยือน ‘ปืนใหญ่’ ที่ลอนดอนอย่างแน่นอน มากกว่าเกมเจอ ‘สาลิกาดง’ ด้วยซ้ำ เพราะเป้าหมายคือการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์อีกครั้งและผลการแข่งขันครั้งนี้อาจทำให้ทีมจากลอนดอนหมดกำลังใจในการลุ้นแชมป์ก็ได้
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า บอสของเรา โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หลังจากที่ โรดรี้ ทำให้ทีมต้องตกในสถาณการณ์ลำบากตลอดครึ่งหลังของเกม โดยพร้อมย้ำว่านี่เป็นสิ่งที่กองกลางชาวสแปนิชต้องจดจำไว้เป็นบทเรียนเลย "หวังว่า โรดรี้ จะได้เรียนรู้ เขาต้องควบคุมตัวเองและอารมณ์ นี่คือสิ่งที่เขาต้องทำ ผมโดนใบเหลืองได้ แต่ โรดรี้ ต้องไม่โดนใบเหลือง ผมไม่ได้ลงเล่น คนข้างในสนามต้องระวังตัวไว้ ผมควบคุมตัวเองไม่ได้ก็จริง แต่ผมไม่ได้เล่น อีกไม่นานผมคงจะได้ไปที่นั่งแล้วเพราะจะได้ใบเหลืองมาแล้ว"
นับตั้งแต่ โรดรี้ ย้ายมาเล่นให้กับ แมนเซสเตอร์ ซิตี้ เขาคือผู้เล่นที่ลงเล่นจำนวนเกมมากที่สุดในลีก และคะแนนการเล่นของเขาก็มาตรฐานสูงมาตลอด นี่แหละเป็นคำตอบที่ว่าเขาสำคัญกับทีมแค่ไหน ฤดูกาลที่ผ่านมากล้าพูดได้เต็มปากว่าถ้า โรดรี้ บาดเจ็บไปช่วงเวลานึง ทีมเรือใบ อาจไม่ได้ทริปเปิ้ลแชมป์ ดังนั้นเรามามองในแง่ดีที่ว่า เจ้าตัวได้พักร่างกายบ้างเพราะเชื่อว่าถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้ เป๊ป จะไม่พักกองกลางชาวสเปนรายนี้สักเกมอย่างแน่นอน
ในฐานะแฟนบอล แมนฯซิตี้ ต้องบอกว่าเรายังโชคดีที่ได้ตัว โรดรี้ มาในช่วงอายุที่ใช้งานได้อีกนานเพราะเจ้าตัวเพิ่งอายุ 26 ปี แต่สิ่งสำคัญคือคนที่มาเล่นทดแทนแบ่งเบาภาระเพื่อไม่ให้กองกลางชาวสเปนต้องเล่นทุกเกมจนเหนื่อยล้า และถ้าคนนั้นไม่ใช่ คาลวิน ฟิลลิปส์ ก็ต้องรีบหาคนใหม่มาให้ได้โดยเร็ว…
เขียนโดย The Lite Team.